การลงทุนปลูกเผือกหอม ลงทุนน้อย กำไรงาม
08/08/2015 18:21 น. | โพสโดย admin
Tags ที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมปลูกเผือกหอม พร้อม รับซื้อผลผลิตคืน
เปิดรับลูกไร่เพิ่มเติมอีก 100 ไร่ เท่านั้นรับทั่วไทย ไม่จำกัดจำนวนไร่

การลงทุนปลูกเผือกหอม
ราคาจำหน่ายชุดลูกพันธุ์เผือกหอม มี 2 แบบ
แบบที่ 1 ไร่ละ 7,000 บาท
ประกอบไปด้วย
– ชุดลูกพันธุ์เผือกหอมจำนวน 120 กก. ประมาณ 4,000++ กว่าหัวพันธุ์
– ชุดบำรุงทางใบ เร่งราก ลำต้น ใบ ในการสร้างอาหาร
– ชุดป้องกันโรคของเผือกหอม – ชุดเร่งการเจริญเติบโตของหัวเผือกหรือตัว สร้างอาหารช่วยหัวเผือก
– คู่มือการปลูกเผือกหอม พร้อมทำสัญญารับซื้อผลผลิตคืน มีราคาประกันให้พร้อม สัญญาจะทำเป็นรอบการผลิตต่อจำนวนไร่ที่ปลูกจริง
แบบที่ 2 ไร่ละ 6,000 บาท
ประกอบไปด้วย
– ชุดลูกพันธุ์เผือกหอม ประมาณ 120กก หรือประมาณ 4,000+++ กว่าหัวพันธุ์
– คู่มือการปลูกเผือกหอม พร้อมทำสัญญารับซื้อผลผลิตคืน มีราคาประกันให้พร้อม สัญญาจะทำเป็นรอบการผลิตต่อจำนวนไร่ที่ปลูกจริง
ค่าจัดส่งคิดเป็นเที่ยวราคาเดียวครับ ไม่ว่าจะสั่งกี่ไร่
– ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก 1,000 บาท
– ภาคใต้ ภาคเหนือ 2,000 บาท
การคำนวณกำไรจากการปลูกเผือกหอม
กำไรในการลงทุนจะอยู่ประมาณ 30,000 – 100,000 บาทต่อไร่โดยเผือกที่ส่งเสริมจะปลูก ได้ประมาณ 3,000++ กว่าต้นต่อไร่ ในการคำนวณจำนำราคาประกันขั้นต่ำมาคำนวณ ซึ่งหากหัวเผือกหอมขนาด 1 กิโลกรัม จะได้ว่า 3,500 x 20 = 70,000 บาทต่อไร่ นำมาลบการลงทุนไปที่ ไร่ละ 7,000 บาท บวกค่าจัดการเพิ่มเติมต่างๆ อาทิเช่นค่า ไถ่ ค่าวางระบบน้ำ ประมาณ 5,000 บาท รวมเป็น การลงทุน 12,000 บาท กำไรที่ได้ คือ 70,000 -12,000 = 58,000 บาท
ซึ่งหากหัวเผือกหอมหนักเป็น 2 กิโลกรัม จะได้ว่า 3,500 ต้น x 40 บาท ก็ เท่ากับ 140,000 บาท ต่อไร่และราคาในการรับซื้อประกันขั้นต่ำถ้าเกิดกรณี เผือกหอมขึ้นราคา ทาง ส.การเกษตรไทย ก็ปรับเพิ่มให้ท่าน อีกด้วย
หมายเหตุ กรณีจะได้กำไรมากหรือน้อยนั้นต้องเรียนให้ทราบว่าทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของเกษตรกรด้วย ทั้งในเรื่องการรดน้ำ พรวนดิน และกำจัดวัชพืช ต่างๆ
——————————————————————————————————
ราคาประกันขั้นต่ำในการรับซื้อเผือกหอม
ราคาขั้นต่ำในการรับซื้อผลผลิต
ปริมาณน้ำหนักของเผือกหอม
|
ประกันราคา
|
– น้ำหนัก 1 กิโลกรัมขึ้นไป
|
ขั้นต่ำ กก. 15 บาท
|
– น้ำหนัก 8-9 ขีด
|
ขั้นต่ำ กก. 10 บาท
|
– น้ำหนัก 5-7 ขีด
|
ขั้นต่ำ กก. 6 บาท
|

หมายเหตุ:(โดยราคาจะขึ้นลงตามการแปรผันของตลาดแต่จะไม่ต่ำกว่าราคาที่ประกันไว้นะครับ)
–——————————————————————————————————
การรับซื้อเผือกหอม
จะใช้ระยะเวลาในการ ปลูก อยู่ประมาณ 6 เดือน ซึ่งเมื่อระยะเวลาครบกำหนด หรือ ก่อน ท่านจะทำการขุดเพื่อ จำหน่ายคือ ประมาณก่อน 1-2 สัปดาห์ ให้ท่านโทรแจ้ง ส.การเกษตรไทย จากนั้น ทางเราจะจัดตารางวันที่ เพื่อจะมีรถเข้าไปรับซื้อ ให้ถึงไร่ ถึงสวนให้ท่าน

–——————————————————————————————————
การสั่งจอง สามารถโทรสั่งจอง แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ง่าย ในการจัดส่งไปที่
Email: sorkasetthai@gmail.com หรือแจ้งมา ได้ตามเบอร์โทรศัพท์ ที่ปรากฎ
Tel: Dtac :098-6439947 12call: 093-4841109
ไลน์ ID: sks_thai
ที่ปรากฎอยู่
โดยการสั่งจอง ท่านต้อง โอนค่ามัดจำในการสั่งจองจำนวน 50% ของการสั่งจอง มาที่เลขบัญชี
ธ.กรุงเทพ 638-7-13996-4 นางกันธิมา ทิพย์อุตร์ สาขาอำนาจเจริญ
ธ.กสิกรไทย 061-3-31576-4 นางกันธิมา ทิพย์อุตร์ สาขาอำนาจเจริญ
ธ.กรุงไทย 319-0-78960-6 นางกันธิมา ทิพย์อุตร์ สาขาอำนาจเจริญ
และเก็บสลิปการโอนมัดจำไว้ เพื่อ ยืนยันการจอง แล้ว โทรแจ้งการโอนมาที่
Tel: Dtac: 098-6439947 12call: 093-4841109
line ID: sks_thai
หลังจากนั้นท่านจะได้รับชุดพันธุ์เผือกหอม ไม่เกิน 3-7 วัน หลังจาก วันสั่งจองและมัดจำเรียบร้อย
———————————————————————————————-

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเผือก
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ
เผือก เป็นพืชเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นที่ สําคัญอีกพืชหนึ่ง คนไทยนิยมบริโภคเผือกเพราะมีกลิ่นหอมและรสชาติดี เป็นพืชหัว ที่เป็นพื ชอาหารที่สําคัญอีกชนิดหนึ่ง หัวเผือกจะมีส่วนประกอบ เป็นพวกแป้งและแร่ธาตุต่าง ส่วนใบประกอบไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุ ซึ่งใบเผือกสามารถนําไปใช้เป็นอาหารสัตวได้อีกด้วย และมี เผือกบางประเภทที่ใช้ใบสําหรับบริโภคซึ่งหัวจะมีขนาดเล็กไม่เหมาะต้อการบริโภคปัจจุบันเผือกกําลังเป็นที่ต้องการของตลาด ต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ฮองกง ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์และ มาเลเซีย ประเทศไทยมีการปลูกเผือกอยู่ทั่วไปทุกภาคของประเทศ มีพื้นที่ปลูกเผือกทั้งประเทศ ประมาณ 25,000 – 30,000 ไร่ผลผลิตประมาณ 45,000 – 65,000 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 2 –2.5 ตันต่อไร่ ส่วนจังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกที่สํ าคัญ ได้ แก่ จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์่พิษณุโลก นครราชสีมา สุรินทร์ สระบุรี อยุธยา สิงห์บุรี ปราจีนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ุราชบุรี
สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม เผือกเป็นพืชหัวที่มีต้นคล้ายบอนมีความต้องการนํ้ า หรือความชื้นในการเจริญเติบโตค้อนข้างสูง เผือกจึ งชอบดินอุดมสมบูรณ์และสามารถอุ้มนํ้าไว้ได้มาก สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยใน แหล่งที่มีระบบนํ้ าชลประทานดีจะสามารถปลูกเผือกได้ ตลอดปีส่วนในแหล่งที่มีนํ้ าจํ ากัดควรปลูกเผือก ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เผือกปลูกได้ทั้งที่ลุ่มและดอน สภาพไรที่ราบสูงไหลเขาและปลูกได้ในดินหลาย ชนิด ยกเว้นดินลูกรัง ดินที่เหมาหะสมสํ าหรับการปลูกเผือกมากที่สุด คือ ดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์ วัตถุ สูง หนาดินลึก ระบายนํ้าดี
ฤดูปลูก ประเทศไทยสามารถปลูกเผือกได้ทั่วทุกภาคและทุกฤดูกาลตลอดทั้งปีซึ่งถ้าเป็นแหล่งที่ มีนํ้ า ชลประทานดีอยู่แล้วเกษตรกรจะปลูกเผือกเมื่อไรก็ได้ แต่โดยทั่วไปเกษตรกรนิยมปลูกเผือกในต้นฤดู ฝนในเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน และฤดูแล้งช่วงหลังการทํ านาเดือนมกราคม – กุมภาพันธุ์ ฤดูฝน ปลูกมากในสภาพพื้นที่ดอน อาศัยนํ้ าฝน มีบางท้องที่ปลูกในสภาพพื้นที่ลุ่ม หรือที่นา ฤดูแล้ง ปลูกหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว หากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วภายในเดือนธันวาคม จะปลูกผักก่อนการปลูกเผือกในเขตชลประทานจะสามารถปลูกเผือกได้ตลอดทั้งปี
การเก็บเกี่ยว เมื่อเผือกมีอายุได้ 5-6 เดือน สังเกตเห็นใบเผือกจะเล็กลง ใบเผือก ใบล่าง ๆ จะมีสีเหลือง เหลือใบยอด 2-3 ใบ จึงสามารถขุดเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
——————————————————————————————————

สมัครสั่งจองคลิกได้ที่นี้เลยครับ คลิกเลย

- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ